รอยแตกลายมักปรากฎเป็นรอยเส้นบุ๋มลงไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น หน้าอก แขน ขา ท้อง สะโพก และบั้นท้าย
โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์มักจะมีรอยแตกลายปรากฎขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ แม้ว่าผิวแตกลายจะไม่
ก่อให้เกิดอาการใดๆ หรือไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ บางคนอาจจะรู้สึกไม่ชอบใจที่มีรอยเหล่านี้อยู่
อะไรกัน ? ที่ทำให้ผิวแตกลาย
รอยแตกลายสีแดง VS รอยแตกลายสีขาว แตกต่างกันอย่างไร?
รอยแตกลายแดง (Striae Rubra) คือ รอยแตกลายใหม่ที่เกิดจากการยืดหดตัวของร่างกายที่เร็วเกินไป
มีลักษณะนูนบาง มีสีแดง สีม่วง ไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม สามารถรักษาให้หายได้ง่ายกว่ารอยแตกสีขาว
รอยแตกลายขาว (Striae Alba) คือ รอยแตกลายที่เกิดขึ้นมานานแล้วจนกลายเป็นสีขาว บ้างก็มีรอยบุ๋มลง
ไปบนผิวหนัง เป็นรอยแตกลายที่หายยากกว่ารอยแตกลายแดง
การรักษาผิวแตกลาย และ การดูแลตนเอง
ทาครีมบำรุงผิวสูตรมอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้น หรือ บำรุงผิวด้วย Body Oil ที่มีความเข้มข้นสูงในตอนกลางคืน
เน้นที่มีส่วนผสมของเชียร์บัตเตอร์ อัลมอนด์ออยล์ โกโกบัตเตอร์ วิตามินอี บีแว็กซ์ และ ส่วนผสมจากธรรมชาติ
ที่อ่อนโยนต่อผิว บรรเทาอาการผิวแห้งคัน และช่วยให้รอยแตกลายเลือนจางลง
สครับผิวแตกลาย เพื่อช่วยขจัดเซลล์ผิวเสื่อมสภาพและกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรงกว่า แนะนำให้
เลือกสครับที่มีส่วนผสมของธรรมชาติ ปราศจากน้ำหอม หรือสารก่อการระคายเคือง ควรขัดผิวสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
แล้วเพิ่มการบำรุงด้วยมาส์กผิวกายเพิ่มความชุ่มชื่นหลังสครับ เพื่อช่วยให้ผิวเนียนสวยทั่วเรือนร่าง
คุณแม่ตั้งท้องที่ควรมีผลิตภัณฑ์ปกป้องและลดเลือนรอยแตกลายติดบ้านตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ หลีกเลี่ยงครีมที่มี
ส่วนผสมของสเตียรอยด์ (Steroid) ที่ทำให้ผิวแตกลายในระยะยาวและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ควบคุมน้ำหนักตัวให้คงที่ และดื่มน้ำเปล่าเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ข้อดีของการดื่มน้ำเปล่าวันละ 1-2.5 ลิตร นอก
จากจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น เรียบเนียน และเปล่งปลั่ง แล้วยังช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่ายและระบบต่าง ๆ ของ
ร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีวิตามิน A,C,D และ E ช่วยกระตุ้นการ
ผลัดเซลล์ผิว และพยายามควบคุมน้ำหนักตัวอย่าให้อ้วนเร็วหรือผอมเร็วจนเกินไป
หัตถการเข็มและเลเซอร์ลดรอยแตกลาย อีกหนึ่งตัวช่วยที่แก้ปัญหาผิวแตกลายเฉพาะจุดได้อย่างรวดเร็วทันใจ
เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิว ให้ผิวมีความยืดหยุ่นและกระชับมากขึ้น เพียงแต่การทำต้อง
เข้ารับการรักษาหลายครั้งถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่พอใจ แต่สามารถรักษาได้ทั้งรอยแตกลายที่เพิ่งเป็นและรอยแตกลาย
ที่เป็นมานานแล้ว นอกจากนี้ ยังมีการใช้คลื่นวิทยุกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรือการรักษาผิวแตกลายด้ว
อัลตราซาวด์ (Ultrasound ขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่แพทย์ประจำสถาบันความงามเลือกใช้